ให้นักศึกษาเขียนประเมินอาจารย์ผู้สอนในประเด็นดังนี้
1.ความรู้ที่ได้จากการเรียนวิชานี้
ตอบ - ได้เรียนรู้เรื่องการสร้างบล็อกที่เราสามารถจะนำไปประยุกต์ใช้กับการสอนเด็กในอนาคตได้
- ได้รู้จักการนำสื่อต่างๆมาใช้กับการสอน
- ได้เรียนรู้วิชานี้ด้วยตนเองเพิ่มขึ้น โดยการค้นหาความรู้จากอินเทอร์เน็ต
- ทำให้เราเป็นคนสนใจที่จะหาความรู้ใหม่ๆ มาพัฒนาตนเอง
- ทำให้เราได้รู้จักคิด และวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ
2.การนำเทคโนโลยีบล็อกมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนนักศึกษาเห็นว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
ตอบ ข้อดี
- เราสามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลาที่เราต้องการ
- สะดวกในการรับรู้ข่าวสารและงานที่อาจารย์มอบหมาย
- ช่วยลดภาวะโลกร้อน คือไม่สิ้นเปลืองกระดาษในการทำงาน
- ช่วยฝึกให้เราทำงานกับคอมพิวเตอร์คล่องขึ้น
- ประหยัดค่าใช้จ่าย
ข้อเสีย
- ไม่ได้พูดคุย หารือ กับคนอื่น
3.บอกความรู้สึกต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เว็บบล็อก
ตอบ เป็นสิ่งที่ดี เพราะช่วยทำให้เราได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้เราได้รู้ความคิดเห็นของเพื่อนในห้อง และช่วยให้เราได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน
4.ถ้าประเมินอาจารย์ผู้สอนวิชานี้ เกรด A,B,C จะให้ระดับใด เหตุผล
ตอบ เกรด A เพราะอาจารย์ทุ่มเทเวลาในการสอน เข้าใจนักศึกษาทุกคน รู้จักนำสื่อการเรียนมาประยุกต์ใช้จนทำให้รู้สึกไม่น่าเบื่อ และเราสามารถกลับไปอ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้ได้
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558
วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558
คุณครูที่ประสบความสำเร็จ
My
Idol
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล นายสุภาพ ริยาพันธ์
วันเดือนปีเกิด 4 กุมภาพันธ์ 2507
อายุ 51 ปี
ที่อยู่ 214 ม.7 ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช 80270
อาชีพ รับราชการ
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการ
สถานที่ทำงาน โรงเรียนบ้านห้วยปริก
ประวัติการศึกษา
-การศึกษาระดับประถม โรงเรียนชุมชนวัดกะทูนเหนือ
-การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนพิปูนสังฆรักษ์ประชาอุทิศ
-การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนจันทร์ประดิษถารามวิทยาคม กรุงเทพมหานคร (แผนการเรียนคณิต-วิทย์)
-การศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยครูสมเด็จเจ้าพระยา
ประวัติการทำงาน
ปี พ.ศ.
|
ตำแหน่ง/วิชาสอน
|
สถานที่ทำงาน
|
2530
|
อาจารย์ 1 ระดับ 3 (คณิตศาสตร์)
|
โรงเรียนสังวาลวิทย์7 อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช
|
2531-2540
|
อาจารย์ 1 (คณิตศาสตร์)
|
โรงเรียนบ้านวังวัว อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช
|
2541
|
ครูใหญ่
|
โรงเรียนบ้านปลายคลอง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
|
2542
|
ครูใหญ่
|
โรงเรียนบ้านหนองใหญ่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
|
2550-ปัจจุบัน
|
ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
|
โรงเรียนบ้านห้วยปริก
|
บทสัมภาษณ์
1. เพราะเหตุใดคุณถึงประกอบอาชีพนี้
ตอบ เพราะรัก ชอบ และศรัทธาในอาชีพครู
2. ในปัจจุบันนี้คุณมีความสุขในการประกอบอาชีพนี้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ มีความสุข เพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง มีเกียรติและศักดิ์ศรีในสังคม
3. ในวันหยุดสุดสัปดาห์คุณใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมอะไรบ้าง
ตอบ -ประกอบธุรกิจส่วนตัว คือ ทำสวนผลไม้ ทำสวนยางและสวนปาล์มน้ำมัน -พักผ่อนและดูแลครอบครัว
4.สมาชิกในครอบครัวของคุณมีความคิดเห็นอย่างไรเมื่อคุณประกอบอาชีพนี้
ตอบ -เป็นอาชีพที่สุจริต
-ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
-สร้างเด็กให้เป็นคนดีของสังคม
5.คุณคิดว่าการประกอบอาชีพนี้มีความสำคัญอย่างไร ตอบ -ทำให้มีชีวิตที่มั่นคง -ทำให้นักเรียนมีความรู้
-ทำให้นัดเรียนเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ
1. เพราะเหตุใดคุณถึงประกอบอาชีพนี้
ตอบ เพราะรัก ชอบ และศรัทธาในอาชีพครู
2. ในปัจจุบันนี้คุณมีความสุขในการประกอบอาชีพนี้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ มีความสุข เพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง มีเกียรติและศักดิ์ศรีในสังคม
3. ในวันหยุดสุดสัปดาห์คุณใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมอะไรบ้าง
ตอบ -ประกอบธุรกิจส่วนตัว คือ ทำสวนผลไม้ ทำสวนยางและสวนปาล์มน้ำมัน -พักผ่อนและดูแลครอบครัว
4.สมาชิกในครอบครัวของคุณมีความคิดเห็นอย่างไรเมื่อคุณประกอบอาชีพนี้
ตอบ -เป็นอาชีพที่สุจริต
-ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
-สร้างเด็กให้เป็นคนดีของสังคม
5.คุณคิดว่าการประกอบอาชีพนี้มีความสำคัญอย่างไร ตอบ -ทำให้มีชีวิตที่มั่นคง -ทำให้นักเรียนมีความรู้
-ทำให้นัดเรียนเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ
6.คุณมีคติประจำใจหรือข้อคิดอะไรบ้างในการดำเนินชีวิต
ตอบ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558
ทดสอบกลางภาคเรียน
1.แนวคิดทางการศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ การศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน โดยมีวัดเป็นแหล่งให้ความรู้ มีพระภิกษุเป็นผู้สอนหรือคุณครู วิชาความรู้ที่ถ่ายทอดไม่มีการจดบันทึก อาศัยการท่องจำ และมีวิชาความรู้ทั่วไปเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิต เช่น การเย็บปักถักร้อย งานบ้านและงานเรือนต่างๆ
2. สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา การจัดการศึกษาเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ แตกต่างกัน เพราะ สมัยกรุงศรีอยุธยามีการติดต่อกับชาวตะวันตก และมีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนา ส่วนในสมัยสุโขทัยไม่มีการติดต่อกับชาวต่างชาติ จึงมีศูนย์กลางการเรียนรู้ คือ วัดเท่านั้น
ตอบ 1.แนวคิดและวิทยาการต่างๆของชาวตะวันตก
2.ภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจ
3.การติดต่อกับต่างประเทศมากขึ้น
ตอบ ได้มีการนำวิทยาการใหม่ๆมาพัฒนาประเทศ จัดพิมพ์ตำราเรียน และเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการศึกษาไทยในสมัยต่อไป
5. แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ เกิดในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ จินดามณี เกิดสมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
มีที่มาจากการที่ฝรั่งเศสได้ติดต่อค้าขาย เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทย
ตอบ การที่ฝ่ายสามัญและวิสามัญได้มีความรู้ เพื่อรับผิดชอบชักนำวิชาที่ได้เรียนรู้ไปประกอบอาชีพและการเป็นพลเมืองที่ดี ทำให้ประเทศมีการพัฒนาเท่าทันประเทศที่เจริญแล้ว
7. การจัดการศึกษาไทยที่เรียกว่า มาติกาศึกษา เป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ การศึกษาที่มีศูนย์กลางคือ วัด มาติกาศึกษามี 8 มาติกา ดังนี้
1.ตำบลที่เล่าเรียนคือ ตำบลของวัด
2.โรงเรียน คือ ที่เรียนของวัด เช่น หอฉัน หอสวดมนต์ และวิหาร
3.นักเรียนและครู มี 3 ประเภท คือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
4.เวลาเรียน คือ ตอนพระว่าง
5.เครื่องเล่าเรียน คือ กระดานชนวน ดินสอพอ และปากกาไม้ไผ่
6.วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียน
7.วิชาเลข คือ เลขคณิตวิธีต่างๆ
8.ข้อบังคับการเรียน คือ ระเบียบวินัย การลงโทษ
8. การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ สมัยรัชกาลที่ 5ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะต้องการหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาพัฒนาประเทศให้เท่าเทียมกับชาติตะวันตกในทุกด้าน
9. การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ เห็นด้วย เพราะการปฏิรูปการศึกษาในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประยุกต์กับการศึกษามากขึ้น จึงทำให้การเรียน การสอนสะดวก และรวดเร็ว เพราะสามารถเรียนทางไกลและศึกษาค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตนเอง และทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนด้วยว่าจะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับการศึกษาได้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด
10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาเข้าสู่สมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างไร
ตอบ มียุทธศาสตร์ที่สำคัญ ดังนี้คือ
-การพัฒนาศักยภาพของนักการศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้สื่อสารกันได้สะดวก
-การเพิ่มคุณภาพการศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ และความสามารถเพิ่มขึ้น
-การจัดมาตรฐานการศึกษา เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์เดียวกัน
-การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาวิชาชีพครู
-การศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัฒน์ เพื่อพัฒนาการศึกษา สนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม
วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558
วีดีโอการศึกษา
1.ชื่อเรื่อง:ผมเกลียดโรงเรียน
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
บุคคลที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา โดยโรงเรียนเปรียบเหมือนล๊อคเกอร์และการศึกษาเปรียบเหมือนกุญแจ แต่ส่วนใหญ่อาจารย์ไม่เคยสอนให้นักเรียนคิดนอกเหนือจากหนังสือ ทำให้เรานั้นคิดไม่เป็นตรงกับสุภาษิตที่ว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะจ่ายการเพื่อคนบ้า เพราะพวกเขาไม่มีสามัญสำนึกและไม่ควรเรียนเพื่อรับใบปริญญา คือ กระดาษแผ่นเดียวเท่านั้น
ข้อคิดที่ได้
ควรวางเป้าหมายและมุ่งไปข้างหน้าให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
บุคคลที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา โดยโรงเรียนเปรียบเหมือนล๊อคเกอร์และการศึกษาเปรียบเหมือนกุญแจ แต่ส่วนใหญ่อาจารย์ไม่เคยสอนให้นักเรียนคิดนอกเหนือจากหนังสือ ทำให้เรานั้นคิดไม่เป็นตรงกับสุภาษิตที่ว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะจ่ายการเพื่อคนบ้า เพราะพวกเขาไม่มีสามัญสำนึกและไม่ควรเรียนเพื่อรับใบปริญญา คือ กระดาษแผ่นเดียวเท่านั้น
ข้อคิดที่ได้
ควรวางเป้าหมายและมุ่งไปข้างหน้าให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
2.ชื่อเรื่อง:สตีฟ จ็อบส์
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ต้องมีความเชื่อมั่นในบางสิ่งอย่างจริงจัง เพราะความเชื่อที่เรามีมันจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ทำให้เรามีความมั่นใจที่จะทำตามสิ่งที่หัวใจต้องการ แม้ว่าบางครั้งมันอาจจะออกนอกเส้นทาง แต่สิ่งนั้นจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
ข้อคิดที่ได้
เกิดเป็นคนจะต้องทำในสิ่งที่หัวใจต้องการ แม้ว่ามันจะลำบากแต่เมื่อรู้ถึงผลมันจะทำให้เราภูมิใจ
ข้อคิดที่ได้
เกิดเป็นคนจะต้องทำในสิ่งที่หัวใจต้องการ แม้ว่ามันจะลำบากแต่เมื่อรู้ถึงผลมันจะทำให้เราภูมิใจ
3. ชื่อเรื่อง:บิล เกตต์
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ข้อที่1 ชีวิตของคนเรานั้นไม่เท่าเทียมเท่าไร
ข้อที่2 ความสำเร็จที่เกิดจากตัวคุณเอง
ข้อที่3 อย่าหวังว่าเรียนจบแล้วจะได้ทำงานเงินเดือนเยอะ
ข้อที่4 การทำงานน่าเบื่อสุด
ข้อที่5 การคิดคำสแลงใหม่ไม่ใช่ความผิด
ข้อที่6 จงเรียนรู้ความผิดพลาด
ข้อที่7 จงช่วยกันแบ่งเบาภาระแก่ครอบครัว
ข้อที่8 ชีวิตเป็นการลองผิดหรือลองถูก
ข้อที่9 ไม่มีวันหยุดให้เหมือนเรียนหนังสือ
ข้อที่10 จงเชื่อสิ่งที่เป็นจริง
ข้อที่11 มีมิตรภาพกับความเนิร์ด
ข้อคิดที่ได้
การประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น ต้องเริ่มจากตัวเรา
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ข้อที่1 ชีวิตของคนเรานั้นไม่เท่าเทียมเท่าไร
ข้อที่2 ความสำเร็จที่เกิดจากตัวคุณเอง
ข้อที่3 อย่าหวังว่าเรียนจบแล้วจะได้ทำงานเงินเดือนเยอะ
ข้อที่4 การทำงานน่าเบื่อสุด
ข้อที่5 การคิดคำสแลงใหม่ไม่ใช่ความผิด
ข้อที่6 จงเรียนรู้ความผิดพลาด
ข้อที่7 จงช่วยกันแบ่งเบาภาระแก่ครอบครัว
ข้อที่8 ชีวิตเป็นการลองผิดหรือลองถูก
ข้อที่9 ไม่มีวันหยุดให้เหมือนเรียนหนังสือ
ข้อที่10 จงเชื่อสิ่งที่เป็นจริง
ข้อที่11 มีมิตรภาพกับความเนิร์ด
ข้อคิดที่ได้
การประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น ต้องเริ่มจากตัวเรา
4.ชื่อเรื่อง:อิชิตัน
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
การที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องมีความเชื่อว่าต้องลำบากก่อนถึงจะสบาย คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้ ไม่ว่าใครก็ตามก็อยากมีอนาคตที่ดีดังนั้นควรนำข้อผิดพลาดมาเป็นบทเรียนแก่ตนเอง เพื่อใช้ในการปรับปรุงตน
ข้อคิดที่ได้
การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องเรียนรู้ที่จะผิดพลาดได้
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
การที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องมีความเชื่อว่าต้องลำบากก่อนถึงจะสบาย คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้ ไม่ว่าใครก็ตามก็อยากมีอนาคตที่ดีดังนั้นควรนำข้อผิดพลาดมาเป็นบทเรียนแก่ตนเอง เพื่อใช้ในการปรับปรุงตน
ข้อคิดที่ได้
การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องเรียนรู้ที่จะผิดพลาดได้
ดาวเด่นของการศึกษา
1. ชื่อเรื่อง :สัมภาษณ์ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ การเตรียมพร้อมเข้าสู่ AEC
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศไทยควรได้รับผลประโยชน์มากก่อนการเข้าสู่ AEC เพราะประเทศไทยมียุทธศาสตร์ที่เหมาะสมในการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยประเทศไทยมีเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 2 และมีความหลากหลายที่สุด แต่ต้องอาศัยความพร้อม การเตรียมตัว และทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทยควรจัดการศึกษา และทรัพยากรมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
มั่นศึกษาความรู้ทั้งด้านการเมือง การปกครอง และความเป็นอยู่ของประเทศเพื่อนบ้านอยู่เสมอ และพัฒนาตนเองในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารให้มีประสิทธิภาพก่อนเปิดAEC
ข้อคิดที่ได้
ควรที่จะพัฒนาตนเองก่อนที่จะพัฒนาผู้อื่น
2. ชื่อเรื่อง:ประเทศไหนๆก็เร่งพัฒนาคน
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศอื่นได้มีการพัฒนาบุคคลอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ประเทศนั้นมีคนเก่ง
คนฉลาดและสามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้อย่างง่าย เช่น ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีทรัพยากรมนุษย์ที่ดีของโลก เพราะชาวสิงคโปร์เป็นนักคิด นักลงทุน และผู้บริหารที่ดี
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเองเพื่อให้พร้อมรับกับสถานการณ์ต่างๆ
ข้อคิดที่ได้
การที่จะพัฒนาใครได้ เราจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีก่อน
ประเทศอื่นได้มีการพัฒนาบุคคลอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ประเทศนั้นมีคนเก่ง
คนฉลาดและสามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้อย่างง่าย เช่น ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีทรัพยากรมนุษย์ที่ดีของโลก เพราะชาวสิงคโปร์เป็นนักคิด นักลงทุน และผู้บริหารที่ดี
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเองเพื่อให้พร้อมรับกับสถานการณ์ต่างๆ
ข้อคิดที่ได้
การที่จะพัฒนาใครได้ เราจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีก่อน
3. ชื่อเรื่อง:ดาวเด่นการศึกษาแห่งอาเซียน
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการศึกษาดีที่สุด เพราะรัฐบาลของสิงคโปร์สนับสนุนการศึกษาแบบให้เปล่า และการสอนจะไม่เน้นวิชาการมากแต่เน้นในเรื่องคุณธรรมคู่กับศิลปะ ทำให้คนสิงคโปร์มีความกล้าแสดงออก เป็นต้น
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
เราจะต้องเป็นคนเก่งที่มีคุณธรรม เพื่อทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า
ข้อคิดที่ได้
การเรียนไม่ใช่ทางออกของทุกอย่าง แต่เป็นการฝึกฝนตนเองให้เป็นคนดีมีคุณธรรม
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการศึกษาดีที่สุด เพราะรัฐบาลของสิงคโปร์สนับสนุนการศึกษาแบบให้เปล่า และการสอนจะไม่เน้นวิชาการมากแต่เน้นในเรื่องคุณธรรมคู่กับศิลปะ ทำให้คนสิงคโปร์มีความกล้าแสดงออก เป็นต้น
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
เราจะต้องเป็นคนเก่งที่มีคุณธรรม เพื่อทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า
ข้อคิดที่ได้
การเรียนไม่ใช่ทางออกของทุกอย่าง แต่เป็นการฝึกฝนตนเองให้เป็นคนดีมีคุณธรรม
4. ชื่อเรื่อง:ปฏิรูปการศึกษา เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์
องค์ความรู้ที่ได้
เวียดนามเป็นประเทศที่อิสระ มีการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจจากเกษตรกรรมมาเป็นอุตสาหกรรม ทำให้ประเทศมีความต้องการทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น การศึกษาประเทศเวียดนามมีความเชื่อพื้นฐานแลบะวัฒนธรรมว่า
ควรจะเรียนต่อในระดับปริญญา
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การทำให้ตนเองเป็นคนเก่ง ควรเริ่มที่ความเข้าใจในเนื้อหา
ข้อคิดที่ได้
การเรียนในระดับปริญญาควรมาจากความชอบและความถนัด
องค์ความรู้ที่ได้
เวียดนามเป็นประเทศที่อิสระ มีการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจจากเกษตรกรรมมาเป็นอุตสาหกรรม ทำให้ประเทศมีความต้องการทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น การศึกษาประเทศเวียดนามมีความเชื่อพื้นฐานแลบะวัฒนธรรมว่า
ควรจะเรียนต่อในระดับปริญญา
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การทำให้ตนเองเป็นคนเก่ง ควรเริ่มที่ความเข้าใจในเนื้อหา
ข้อคิดที่ได้
การเรียนในระดับปริญญาควรมาจากความชอบและความถนัด
5. ชื่อเรื่อง:ประเทศไทยอยู่ตรงไหนก็อาเซียน
องค์ความรู้ที่ได้
WEF จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อให้ประชาชนได้เห็นศักยภาพของตนเองและประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศไทยได้ถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 4ในอาเซียนและอันดับที่ 37 จาก148 ประเทศขีดจำกัดความสามรารถของไทยยังสูงกว่าอาเซียนเล็กน้อย
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ควรพัฒนาความสามารถของตนเองให้ดีกว่าเดิม
ข้อคิดที่ได้
ความสามารถที่เรามีนั้น เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วจะแตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับความพร้อมในการเรียนรู้
องค์ความรู้ที่ได้
WEF จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อให้ประชาชนได้เห็นศักยภาพของตนเองและประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศไทยได้ถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 4ในอาเซียนและอันดับที่ 37 จาก148 ประเทศขีดจำกัดความสามรารถของไทยยังสูงกว่าอาเซียนเล็กน้อย
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ควรพัฒนาความสามารถของตนเองให้ดีกว่าเดิม
ข้อคิดที่ได้
ความสามารถที่เรามีนั้น เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วจะแตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับความพร้อมในการเรียนรู้
6. ชื่อเรื่อง:สายสัมพันธ์ไทย - ลาว
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศไทยกับลาวเป็นเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกันทางตอนเหนือและตะวันออก โดยมีแม่น้ำเป็นเส้นทางหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนกิจกรรมที่นิยมทำของ
นักท่องเที่ยวที่หลวงพระปางคือ การตักบาตรข้าวเหนือทุกเช้า เป็นวิถีชีวิตของชาวพุทธในลาว
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนทั้งสองประเทศที่มีความคล้ายคลึงกัน
ข้อคิดที่ได้
ไม่ว่าเป็นคนชาติไหนๆก็สามารถเป็นพี่น้องได้เหมือนกัน
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศไทยกับลาวเป็นเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกันทางตอนเหนือและตะวันออก โดยมีแม่น้ำเป็นเส้นทางหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนกิจกรรมที่นิยมทำของ
นักท่องเที่ยวที่หลวงพระปางคือ การตักบาตรข้าวเหนือทุกเช้า เป็นวิถีชีวิตของชาวพุทธในลาว
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนทั้งสองประเทศที่มีความคล้ายคลึงกัน
ข้อคิดที่ได้
ไม่ว่าเป็นคนชาติไหนๆก็สามารถเป็นพี่น้องได้เหมือนกัน
7. ชื่อเรื่อง:เยือนถิ่นอิเหนา
องค์ความรู้ที่ได้
องค์ความรู้ที่ได้
ประเทศอินโดนีเซียมีจำนวนของทรัพยากรธรรมชาติมาก จึงเป็นที่สนใจของนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมอาหารเจริญอย่างมาของชาวมุสลิม
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การจัดการกับทรัพยากรที่มีอยู่ในเกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด
ข้อคิดที่ได้
ประเทศจะเจริญได้ควรมีนโยบายที่เป็นธรรมและไม่คดโกง
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การจัดการกับทรัพยากรที่มีอยู่ในเกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด
ข้อคิดที่ได้
ประเทศจะเจริญได้ควรมีนโยบายที่เป็นธรรมและไม่คดโกง
8.ชื่อเรื่อง:เที่ยวฟิลิปปินส์
องค์ความรู้ที่ได้
ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศเกาะที่มีความโดดเด่นทางความสวยงามของธรรมชาติ ประเทศนี้จึงเป็นศูนย์กลางราชการ เศรษฐกิจ และการขนส่งทางอากาศและทางทะเลที่มีความสำคัญของภูมิภาคนี้ นักธุรกิจจะเข้ามาทำธุรกิจที่เกาะเซบู ในแง่ประวัติศาสตร์คือ เกาะที่นักล่าอาณานิคมมาขึ้นฝั่งที่นี้
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ได้เรียนรู้ความโดดเด่นของประเทศในอาเซียน
ข้อคิดที่ได้
นำข้อบกพร่องมาพัฒนากับประเทศตนเองให้มากที่สุด
องค์ความรู้ที่ได้
ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศเกาะที่มีความโดดเด่นทางความสวยงามของธรรมชาติ ประเทศนี้จึงเป็นศูนย์กลางราชการ เศรษฐกิจ และการขนส่งทางอากาศและทางทะเลที่มีความสำคัญของภูมิภาคนี้ นักธุรกิจจะเข้ามาทำธุรกิจที่เกาะเซบู ในแง่ประวัติศาสตร์คือ เกาะที่นักล่าอาณานิคมมาขึ้นฝั่งที่นี้
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ได้เรียนรู้ความโดดเด่นของประเทศในอาเซียน
ข้อคิดที่ได้
นำข้อบกพร่องมาพัฒนากับประเทศตนเองให้มากที่สุด
9. ชื่อเรื่อง:เวียดนามเปิด เศรษฐกิจเกิด
องค์ความรู้ที่ได้
องค์ความรู้ที่ได้
เวียดนามได้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจสม่ำเสมอ ประกอบกับสภาวะการเมืองที่มั่นคง ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีกลไกตลาดที่มั่นคง และภาคอุตสาหกรรมก็พัฒนาสูงขึ้นและมีศักยภาพต่อการส่งออกน้ำมัน
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
การปรับเปลี่ยนทัศนคติทำให้เราสามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้
ข้อคิดที่ได้
ควรเปิดโอกาสการพัฒนาประเทศให้กับทุกๆฝ่าย
10. ชื่อเรื่อง:จับมือกันพัฒนาทั้งไทย-พม่า ได้ร่วมกัน
องค์ความรู้ที่ได้
เนื่องจากทั้งสองประเทศนั้นต่างมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เหมาะแก่การทำธุรกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเติบโต และเจริญก้าวหน้า จึงมีการทำข้อตกลงร่วมกันมากมาย ด้วยการทำข้อตกลงร่วมกันนั้นจึงทำให้มีเศรษฐกิจระหว่างประเทศดีและ พัฒนาอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ศึกษาการร่วมมือการทำงานทั้งสองประเทศเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน
ข้อคิดที่ได้
การร่วมมือทำให้ได้ในสิ่งที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิม
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ศึกษาการร่วมมือการทำงานทั้งสองประเทศเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน
ข้อคิดที่ได้
การร่วมมือทำให้ได้ในสิ่งที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิม
11. ชื่อเรื่อง:ไทย-กัมพูชา ร่วมมือกัน
องค์ความรู้ที่ได้
ไทย และกัมพูชามีความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ จึงมีการจัดระบบในทางการค้าและร่วมมือกันทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณสุข และการเชื่อมเส้นทางคมนาคมมุกดาหาร-สุวรรณาเขต-ดองฮา-ดานัง และเส้นทาง กรุงเทพ –พนมเปญ-โฮจิมินทร์ซิตี้-วังเตา เพื่อความสะดวกของประชาชนทั้งสองประเทศ
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ได้เรียนรู้การจัดระบบของประเทศที่มีความแตกต่างกัน
ข้อคิดที่ได้
การร่วมมือกันพัฒนาประเทศจะช่วยให้ประเทศนั้นรุ่งเรืองเพิ่มขึ้น
องค์ความรู้ที่ได้
ไทย และกัมพูชามีความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ จึงมีการจัดระบบในทางการค้าและร่วมมือกันทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณสุข และการเชื่อมเส้นทางคมนาคมมุกดาหาร-สุวรรณาเขต-ดองฮา-ดานัง และเส้นทาง กรุงเทพ –พนมเปญ-โฮจิมินทร์ซิตี้-วังเตา เพื่อความสะดวกของประชาชนทั้งสองประเทศ
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
ได้เรียนรู้การจัดระบบของประเทศที่มีความแตกต่างกัน
ข้อคิดที่ได้
การร่วมมือกันพัฒนาประเทศจะช่วยให้ประเทศนั้นรุ่งเรืองเพิ่มขึ้น
บทที่ 3 วิวัฒนาการของการศึกษาไทย
แบบฝึกหัด
1.แนวคิดทางการศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ การศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีวัดเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ โดยมีพระภิกษุเป็นผู้สอน วิชาความรู้ที่ถ่ายทอดไม่มีจดบันทึก อาศัยการท่องจำ
2. สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา การจัดการศึกษาเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ แตกต่างกัน เพราะ สมัยกรุงศรีอยุธยามีการติดต่อกับฝรั่งชาติตะวันตก และมีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนา ส่วนสมัยสุโขทัยไม่มีไม่มีการติดต่อฝรั่งชาติและการศูนย์กลางการเรียน คือ วัดเท่านั้น
3. อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ 1.ภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจ
2.แนวคิดและวิทยาการต่างๆของชาวตะวันตก
3.การติดต่อกับต่างประเทศมากขึ้น
4. การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ได้เริ่มนำวิทยาการใหม่ๆเข้ามาผสมผสาน จัดพิมพ์ตำราเรียน และเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการศึกษาไทยในสมัยต่อมา
5. แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ เกิดในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ จินดามณี เกิดสมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
มีที่มาจากการที่ฝรั่งเศสได้ติดต่อค้าขาย เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทย
6. การจัดการศึกษาภาคบังคับ มีลักษณะอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญและวิสามัญ เพื่อรับผิดชอบชั่วดี นำวิชาไปประกอบอาชีพและการเป็นพลเมืองที่ดี ทำให้ประเทศมีพัฒนาเท่าทันประเทศที่เจริญแล้ว
7. การจัดการศึกษาไทยที่เรียกว่า มาติกาศึกษา เป็นอย่างไร จงอธิบาย
ยกเหตุผล
ตอบ การศึกษามีศูนย์กลางคือ วัด มาติกาศึกษามี 8 มาติกา ดังนี้
1.ตำบลที่เล่าเรียนคือ ตำบลของวัด
2.โรงเรียน คือ ที่เรียนของวัด เช่น หอฉัน หอสวดมนต์ และวิหาร
3.นักเรียนและครู มี 3 ประเภท คือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
4.เวลาเรียน คือ ตอนพระว่าง
5.เครื่องเล่าเรียน คือ กระดานชนวน ดินสอพอ และปากกาไม้ไผ่
6.วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียน
7.วิชาเลข คือ เลขคณิตวิธีต่างๆ
8.ข้อบังคับการเรียน คือ ระเบียบวินัย การลงโทษ
8. การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ รัชกาลที่ 5 เพราะต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถมาพัฒนาประเทศให้เท่าเทียมกับชาติตะวันตกในทุกด้าน
9. การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ เห็นด้วย เพราะการปฏิรูปในยุคปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ควบคู่กับการศึกษามากขึ้น ทำให้จัดการเรียนการสอนได้สะดวก รวดเร็ว และทันสมัยกว่ายุคก่อน
10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาเข้าสู่สมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างไร
ตอบ มียุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ การเสริมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอาเซียนพัฒนาศักยภาพของนักการศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา เพิ่มคุณภาพการศึกษา การจัดมาตรฐานการศึกษา การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาวิชาชีพครู จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัฒน์ เพื่อพัฒนาการศึกษา สนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม
ตอบ การศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีวัดเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ โดยมีพระภิกษุเป็นผู้สอน วิชาความรู้ที่ถ่ายทอดไม่มีจดบันทึก อาศัยการท่องจำ
2. สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา การจัดการศึกษาเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ แตกต่างกัน เพราะ สมัยกรุงศรีอยุธยามีการติดต่อกับฝรั่งชาติตะวันตก และมีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนา ส่วนสมัยสุโขทัยไม่มีไม่มีการติดต่อฝรั่งชาติและการศูนย์กลางการเรียน คือ วัดเท่านั้น
3. อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ 1.ภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจ
2.แนวคิดและวิทยาการต่างๆของชาวตะวันตก
3.การติดต่อกับต่างประเทศมากขึ้น
4. การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ได้เริ่มนำวิทยาการใหม่ๆเข้ามาผสมผสาน จัดพิมพ์ตำราเรียน และเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการศึกษาไทยในสมัยต่อมา
5. แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ เกิดในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ จินดามณี เกิดสมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
มีที่มาจากการที่ฝรั่งเศสได้ติดต่อค้าขาย เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทย
6. การจัดการศึกษาภาคบังคับ มีลักษณะอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญและวิสามัญ เพื่อรับผิดชอบชั่วดี นำวิชาไปประกอบอาชีพและการเป็นพลเมืองที่ดี ทำให้ประเทศมีพัฒนาเท่าทันประเทศที่เจริญแล้ว
7. การจัดการศึกษาไทยที่เรียกว่า มาติกาศึกษา เป็นอย่างไร จงอธิบาย
ยกเหตุผล
ตอบ การศึกษามีศูนย์กลางคือ วัด มาติกาศึกษามี 8 มาติกา ดังนี้
1.ตำบลที่เล่าเรียนคือ ตำบลของวัด
2.โรงเรียน คือ ที่เรียนของวัด เช่น หอฉัน หอสวดมนต์ และวิหาร
3.นักเรียนและครู มี 3 ประเภท คือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
4.เวลาเรียน คือ ตอนพระว่าง
5.เครื่องเล่าเรียน คือ กระดานชนวน ดินสอพอ และปากกาไม้ไผ่
6.วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียน
7.วิชาเลข คือ เลขคณิตวิธีต่างๆ
8.ข้อบังคับการเรียน คือ ระเบียบวินัย การลงโทษ
8. การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ รัชกาลที่ 5 เพราะต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถมาพัฒนาประเทศให้เท่าเทียมกับชาติตะวันตกในทุกด้าน
9. การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ เห็นด้วย เพราะการปฏิรูปในยุคปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ควบคู่กับการศึกษามากขึ้น ทำให้จัดการเรียนการสอนได้สะดวก รวดเร็ว และทันสมัยกว่ายุคก่อน
10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาเข้าสู่สมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างไร
ตอบ มียุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ การเสริมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอาเซียนพัฒนาศักยภาพของนักการศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา เพิ่มคุณภาพการศึกษา การจัดมาตรฐานการศึกษา การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาวิชาชีพครู จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัฒน์ เพื่อพัฒนาการศึกษา สนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม
วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558
ปรัชญาการศึกษา
กิจกรรมให้นักศึกษาดูวีดีโอ แล้วสรุปตามความเข้าใจของตนเอง
1.ปรัชญาสารัตถนิยม
กำหนดขึ้นโดย วินเลียม แบ่งเป็น 2 แบบ คือจิตตนิยม และสัจนิยม
-จิตตนิยม เชื่อว่า การศึกษาคือเครื่องมือในการสืบทอดมรดกทางสังคม
-สัจนิยม เชื่อว่า การศึกษาคือเครื่องมือในการถ่ายทอดความรู้ และความจริงตามธรรมชาติ
ปรัชญาสารัตถนิยม สอนให้นักเรียนรับรู้และเข้าใจ ให้ผู้เรียนคล้อยตาม
การประเมินผล จะเน้นเรื่องเนื้อหาสาระ และความรู้
ข้อสังเกต
-กระบวนการเรียนรู้ต้องผ่านจิต
-จิตผู้เรียนพัฒนามากขึ้นเท่าไร ก็จะมีจิตที่สูงมากขึ้นเท่านั้น
-การเรียนรู้มุ่งฝึกการอ่าน การเขียน และการคิดเลข
2.ปรัชญานิรันดร
เริ่มตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ผสมแนวความคิดของอริสโตเติ้ล เน้นในเรื่องของการคิด และการมีเหตุผล ส่วนอคัยนัด เน้นในเรื่องความเชื่อของพระเจ้า
ปรัชญานิรันดร เชื่อว่าปรากฎการณ์นี้ไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม แต่ขึ้นอยู่กับความมีวินัยในตนเองและยึดมั่นในความดี
3.ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
มีแนวคิดพื้นฐานมาจากการปฏิบัติการนิยม เชื่อว่าชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง การศึกษาคือชีวิตไม่ใช่เป็นการเตรียมตัวเพื่อชีวิต
มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา
4.ปรัชญาปฎิรูปนิยม
ใน ค.ศ. 1930 อเมริกาได้เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ การว่างงาน อเมริกาได้นำปรัชญาการศึกษาเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นครั้งแรก
องค์ประกอบของปรัชญาปฎิรูปนิยม มีหลักสูตร โรงเรียน ผู้สอนและผู้เรียน
-หลักสูตร เน้นสังคมเป็นหลัก
-โรงเรียน ผู้นำมีความคิดว่าโรงเรียนสามารถช่วยหาอนาคตให้เด็กและนำความรู้ไปพัฒนาประเทศ
-ผู้สอน และผู้เรียน มีแนวความคิดที่เหมือนกัน เพื่อพัฒนาสังคมไปสู่ประเทศ และให้เป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ
5.ปรัชญาอัตถิภาวนิยม
ผู้ที่ให้กำเนิดแนวคิดคือ ซอรี่ คีเคอการด์ เสนอว่าปรัชญาเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน เอเอสนีลล์ เป็นผู้นำปรัชญานี้มาทดลองในโรงเรียนสาธิต ในประเทศอังกฤษ
แนวคิดของปรัชญานี้ คือส่งเสริมให้คนรู้จักพิจารณา ตัดสินสภาพที่มีความหมายต่อการดำรงชีวิต
จุดมุ่งหมายของการศึกษา ทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจด้วยตนเอง ว่ามีความต้องการอย่างไรเพื่อพัฒนาตนเอง มุ่งให้ผู้เรียนมีวินัยในตนเอง
6.พุทธปรัชญา
การศึกษาในพุทธปรัชญาเพื่อให้เข้าใจความจริงเข้าใจความหมายของชีวิตโดยใช้หลักเหตุและผล ปัจจุบันนี้สามารถเห็นพุทธปรัชญาการศึกษาได้ในการบวชเรียนภาคฤดูร้อน
ความมุ่งหมายของพุทธปรัชญา
การศึกษาจะต้องมุ่งพัฒนาโลภ โกรธ หลงให้ลดลง และพัฒนาความรู้ ความจำ นิสัย และอื่นๆในทางที่เหมาะสม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม และช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
กระบวนการเรียนรู้
การศึกษาพัฒนาวิธีคิดและการใช้เหตุผลเพื่อนำความรู้ไปแก้ไขปัญหาต่างๆ
ความมุ่งหมายของการศึกษา
-ทำให้เกิดความรับผิดชอบต่อสังคม
-พัฒนาความสามารถของผู้เรียนไปในทางที่ถูก
-สร้างศีลธรรม และจริยธรรม
7.โรงเรียนวิถีพุทธ
การบูรณาการหลักการไตรสิกขาลงในตัวเด็ก รวมทั้งการเรียนการสอน ศีล สมาธิ และปัญญา
นอกจากการปฏิบัติตามศีลแล้วยังคุ้นชินกับการตั้งสติก่อนทำกิจกรรมต่างๆ
วิถีพุทธ คือวิถีชีวิตที่ยึดไตรสิกขาเป็นหลัก ทำให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันหน้า
8.โรงเรียนสัตยาไส
เน้นในเรื่องศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ทำให้เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ฝึกสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบ
มนุษย์ต่างจากสัตว์ ตรงที่มีความเมตตา ควบคุมตนเองได้ และยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น
โรงเรียนสัตยาไสจะนำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในโรงเรียน นั่นคือภายในโรงเรียนจะปลูกพืชสมุนไพรกว่า 200 ชนิด สามารถนำมาใช้ประโยชน์และใช้ในครัวได้ การผลิตไบโอดีเซล เพื่อใช้ในรถกระบะ ฯลฯ เพื่อพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือตนเองได้ในอนาคต
1.ปรัชญาสารัตถนิยม
กำหนดขึ้นโดย วินเลียม แบ่งเป็น 2 แบบ คือจิตตนิยม และสัจนิยม
-จิตตนิยม เชื่อว่า การศึกษาคือเครื่องมือในการสืบทอดมรดกทางสังคม
-สัจนิยม เชื่อว่า การศึกษาคือเครื่องมือในการถ่ายทอดความรู้ และความจริงตามธรรมชาติ
ปรัชญาสารัตถนิยม สอนให้นักเรียนรับรู้และเข้าใจ ให้ผู้เรียนคล้อยตาม
การประเมินผล จะเน้นเรื่องเนื้อหาสาระ และความรู้
ข้อสังเกต
-กระบวนการเรียนรู้ต้องผ่านจิต
-จิตผู้เรียนพัฒนามากขึ้นเท่าไร ก็จะมีจิตที่สูงมากขึ้นเท่านั้น
-การเรียนรู้มุ่งฝึกการอ่าน การเขียน และการคิดเลข
2.ปรัชญานิรันดร
เริ่มตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ผสมแนวความคิดของอริสโตเติ้ล เน้นในเรื่องของการคิด และการมีเหตุผล ส่วนอคัยนัด เน้นในเรื่องความเชื่อของพระเจ้า
ปรัชญานิรันดร เชื่อว่าปรากฎการณ์นี้ไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม แต่ขึ้นอยู่กับความมีวินัยในตนเองและยึดมั่นในความดี
3.ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
มีแนวคิดพื้นฐานมาจากการปฏิบัติการนิยม เชื่อว่าชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง การศึกษาคือชีวิตไม่ใช่เป็นการเตรียมตัวเพื่อชีวิต
มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา
4.ปรัชญาปฎิรูปนิยม
ใน ค.ศ. 1930 อเมริกาได้เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ การว่างงาน อเมริกาได้นำปรัชญาการศึกษาเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นครั้งแรก
องค์ประกอบของปรัชญาปฎิรูปนิยม มีหลักสูตร โรงเรียน ผู้สอนและผู้เรียน
-หลักสูตร เน้นสังคมเป็นหลัก
-โรงเรียน ผู้นำมีความคิดว่าโรงเรียนสามารถช่วยหาอนาคตให้เด็กและนำความรู้ไปพัฒนาประเทศ
-ผู้สอน และผู้เรียน มีแนวความคิดที่เหมือนกัน เพื่อพัฒนาสังคมไปสู่ประเทศ และให้เป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ
5.ปรัชญาอัตถิภาวนิยม
ผู้ที่ให้กำเนิดแนวคิดคือ ซอรี่ คีเคอการด์ เสนอว่าปรัชญาเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน เอเอสนีลล์ เป็นผู้นำปรัชญานี้มาทดลองในโรงเรียนสาธิต ในประเทศอังกฤษ
แนวคิดของปรัชญานี้ คือส่งเสริมให้คนรู้จักพิจารณา ตัดสินสภาพที่มีความหมายต่อการดำรงชีวิต
จุดมุ่งหมายของการศึกษา ทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจด้วยตนเอง ว่ามีความต้องการอย่างไรเพื่อพัฒนาตนเอง มุ่งให้ผู้เรียนมีวินัยในตนเอง
6.พุทธปรัชญา
การศึกษาในพุทธปรัชญาเพื่อให้เข้าใจความจริงเข้าใจความหมายของชีวิตโดยใช้หลักเหตุและผล ปัจจุบันนี้สามารถเห็นพุทธปรัชญาการศึกษาได้ในการบวชเรียนภาคฤดูร้อน
ความมุ่งหมายของพุทธปรัชญา
การศึกษาจะต้องมุ่งพัฒนาโลภ โกรธ หลงให้ลดลง และพัฒนาความรู้ ความจำ นิสัย และอื่นๆในทางที่เหมาะสม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม และช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
กระบวนการเรียนรู้
การศึกษาพัฒนาวิธีคิดและการใช้เหตุผลเพื่อนำความรู้ไปแก้ไขปัญหาต่างๆ
ความมุ่งหมายของการศึกษา
-ทำให้เกิดความรับผิดชอบต่อสังคม
-พัฒนาความสามารถของผู้เรียนไปในทางที่ถูก
-สร้างศีลธรรม และจริยธรรม
7.โรงเรียนวิถีพุทธ
การบูรณาการหลักการไตรสิกขาลงในตัวเด็ก รวมทั้งการเรียนการสอน ศีล สมาธิ และปัญญา
นอกจากการปฏิบัติตามศีลแล้วยังคุ้นชินกับการตั้งสติก่อนทำกิจกรรมต่างๆ
วิถีพุทธ คือวิถีชีวิตที่ยึดไตรสิกขาเป็นหลัก ทำให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันหน้า
8.โรงเรียนสัตยาไส
เน้นในเรื่องศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ทำให้เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ฝึกสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบ
มนุษย์ต่างจากสัตว์ ตรงที่มีความเมตตา ควบคุมตนเองได้ และยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น
โรงเรียนสัตยาไสจะนำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในโรงเรียน นั่นคือภายในโรงเรียนจะปลูกพืชสมุนไพรกว่า 200 ชนิด สามารถนำมาใช้ประโยชน์และใช้ในครัวได้ การผลิตไบโอดีเซล เพื่อใช้ในรถกระบะ ฯลฯ เพื่อพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือตนเองได้ในอนาคต
วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558
วิวัฒนาการการศึกษาไทย
ให้นักศึกษาดูวีดีโอของวิวัฒนาการศึกษาไทยแล้วสรุปย่อ ๆ ให้ได้ประเด็น
วิวัฒนาการการศึกษาไทยแบ่งออกเป็น 4 ช่วง ดังนี้
1.การศึกษายุคโบราณ
2.การศึกษาสมัยสุโขทัย
3.การศึกษาสมัยอยุธยา
4.การศึกษาสมัยกรุงธนบุรี
5.การศึกษาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
6.การศึกษาสมัยใหม่
การศึกษาในยุคโบราณ
จะมีบ้าน วัดเป็นจุดศูนย์กลางในการศึกษา ส่วนใหญ่ผู้ชายไทยนิยมบวชเรียน ผู้หญิงไทยนิยมเย็บปักถักร้อยและดูแลครอบครัว
การศึกษาสมัยสุโขทัย
แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
- รูปแบบ1 ผู้ชายเน้นไปที่การบวชเป็นพระ เรียนพระธรรมวินัย
-รูปแบบ2 ผู้หญิงเน้นไปทางการเป็นสตรีที่ดี
บ้านจึงเป็นสถานที่เริ่มต้นที่จะเรียนรู้จากพ่อและแม่ ส่วนวัดเป็นสถานที่ศึกษาพระไตรปิฎกสำหรับผู้ชายในการบวชเป็นพระ
ส่วนสำนักพระราชบัณฑิต เป็นสถานที่ศึกษาของผู้ที่มียศถาบรรดาศักดิ์ และหอเรือน สำหรับผู้หญิงที่จะไปเรียนเกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อย
การศึกษาสมัยอยุธยา
แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือแบบทหาร และแบบพลเรือน
-แบบทหาร จะเรียนเกี่ยวกับการใช้ดาบ ใช้ง้าว รวมทั้งการขี่ช้าง และขี่ม้า
-แบบพลเรือน ส่วนใหญ่ผู้ชายมักจะจะบวชเรียน ผู้หญิงมักจะเรียนเพื่อการออกเรือน ในสมัยนี้มีหนังสือเรื่องจินดามณี ของสมเด็ดพระนารายณ์มหาราช
การศึกษาสมัยกรุงธนบุรี
แม้ว่าจะมีการทำสงครามบ่อย แต่ศูนย์กลางการศึกษาก็จะอยู่ที่วัด พระจะเป็นผู้สอนหนังสือให้ ส่วนใหญ่หนังสือที่เรียนจะเป็นหนังสือเรื่องจินดามณี เมื่อพ่อแม่ประกอบอาชีพอะไร ก็จะสอนให้ลูกทำอาชีพนั้น การศึกษาสมัยนี้จะนิยมให้เรียนการเย็บปักถักร้อย มารยาทในการอยู่ในสังคม และการออกเรือน
การศึกษาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พระบาทสมเด็ดพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ให้เด็กชายไทยเข้าวัดเพื่อเรียน อ่าน และเขียน ได้รู้ถึงหลักคำสอนต่างๆ ส่วนชนชั้นขุนนาง จะเน้นเรื่องการเรียนปรัชญา แต่ในยุคสมัยนี้ไม่ส่งเสริมให้สตรีไทยได้รับการศึกษามาก
การศึกษาสมัยใหม่
การศึกษาไทยในปัจจุบันมีความสำคัญมาก ได้มีการเอาการศึกษาของตะวันตกเข้ามา เพื่อให้ประเทศไทยได้ปรับตัวเข้ากับตะวันตกมากขึ้น และมีการเลิกทาส จึงเกิดความเท่าเทียมกัน เมื่อเวลาผ่านไปได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น ทำให้เด็กห่างไกลจากการท่องจำ และปัจจุบันนี้เด็กส่วนใหญ่มักจะไปพึ่งติวเต้อจนทำให้เด็กไม่ค่อยสนใจการเรียนที่โรงเรียน
วิวัฒนาการการศึกษาไทยแบ่งออกเป็น 4 ช่วง ดังนี้
1.การศึกษายุคโบราณ
2.การศึกษาสมัยสุโขทัย
3.การศึกษาสมัยอยุธยา
4.การศึกษาสมัยกรุงธนบุรี
5.การศึกษาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
6.การศึกษาสมัยใหม่
การศึกษาในยุคโบราณ
จะมีบ้าน วัดเป็นจุดศูนย์กลางในการศึกษา ส่วนใหญ่ผู้ชายไทยนิยมบวชเรียน ผู้หญิงไทยนิยมเย็บปักถักร้อยและดูแลครอบครัว
การศึกษาสมัยสุโขทัย
แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
- รูปแบบ1 ผู้ชายเน้นไปที่การบวชเป็นพระ เรียนพระธรรมวินัย
-รูปแบบ2 ผู้หญิงเน้นไปทางการเป็นสตรีที่ดี
บ้านจึงเป็นสถานที่เริ่มต้นที่จะเรียนรู้จากพ่อและแม่ ส่วนวัดเป็นสถานที่ศึกษาพระไตรปิฎกสำหรับผู้ชายในการบวชเป็นพระ
ส่วนสำนักพระราชบัณฑิต เป็นสถานที่ศึกษาของผู้ที่มียศถาบรรดาศักดิ์ และหอเรือน สำหรับผู้หญิงที่จะไปเรียนเกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อย
การศึกษาสมัยอยุธยา
แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือแบบทหาร และแบบพลเรือน
-แบบทหาร จะเรียนเกี่ยวกับการใช้ดาบ ใช้ง้าว รวมทั้งการขี่ช้าง และขี่ม้า
-แบบพลเรือน ส่วนใหญ่ผู้ชายมักจะจะบวชเรียน ผู้หญิงมักจะเรียนเพื่อการออกเรือน ในสมัยนี้มีหนังสือเรื่องจินดามณี ของสมเด็ดพระนารายณ์มหาราช
การศึกษาสมัยกรุงธนบุรี
แม้ว่าจะมีการทำสงครามบ่อย แต่ศูนย์กลางการศึกษาก็จะอยู่ที่วัด พระจะเป็นผู้สอนหนังสือให้ ส่วนใหญ่หนังสือที่เรียนจะเป็นหนังสือเรื่องจินดามณี เมื่อพ่อแม่ประกอบอาชีพอะไร ก็จะสอนให้ลูกทำอาชีพนั้น การศึกษาสมัยนี้จะนิยมให้เรียนการเย็บปักถักร้อย มารยาทในการอยู่ในสังคม และการออกเรือน
การศึกษาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พระบาทสมเด็ดพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ให้เด็กชายไทยเข้าวัดเพื่อเรียน อ่าน และเขียน ได้รู้ถึงหลักคำสอนต่างๆ ส่วนชนชั้นขุนนาง จะเน้นเรื่องการเรียนปรัชญา แต่ในยุคสมัยนี้ไม่ส่งเสริมให้สตรีไทยได้รับการศึกษามาก
การศึกษาสมัยใหม่
การศึกษาไทยในปัจจุบันมีความสำคัญมาก ได้มีการเอาการศึกษาของตะวันตกเข้ามา เพื่อให้ประเทศไทยได้ปรับตัวเข้ากับตะวันตกมากขึ้น และมีการเลิกทาส จึงเกิดความเท่าเทียมกัน เมื่อเวลาผ่านไปได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น ทำให้เด็กห่างไกลจากการท่องจำ และปัจจุบันนี้เด็กส่วนใหญ่มักจะไปพึ่งติวเต้อจนทำให้เด็กไม่ค่อยสนใจการเรียนที่โรงเรียน
บทที่ 2 ปรัชญาการศึกษา
แบบฝึกหัด
1. การจัดการศึกษาที่ไม่มีปรัชญาเป็นแนวทางท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ ไม่เห็นด้วย เพราะการศึกษากับปรัชญาต้องไปด้วยกัน จึงจะทำให้การศึกษามีประสิทธิภาพ
2. ปรัชญากับการศึกษาท่านคิดว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ มีความสัมพันธ์กัน คือปรัชญาคือ ความรู้ มีการใช้ปรัชญาเป็นแนวทางในการศึกษา จึงจะส่งผลให้การศึกษามีการพัฒนา
3. จงวิเคราะห์การจัดการศึกษาของโรงเรียนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับ หลักสูตร การจัดเรียนการสอน และการบริการทางการศึกษา ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ดำเนินการตามแนวคิดการศึกษาของปรัชญาจิตนิยม วัตถุนิยม ประสบการณ์นิยม อัตภาวนิยม
ตอบ -ปรัชญาจิตนิยม เรื่องการจัดกิจกรรมทางด้านดนตรีให้ผู้เรียน
-ปรัชญาวัตถุนิยม เรื่องจัดให้ผู้เรียนเรียนรู้และคุ้นเคยกับสรรพสิ่งธรรมชาติ
-ประสบการณ์นิยม เรื่องโรงเรียนเน้นสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้เรียน
-อัตภาวนิยม เรื่องให้ผู้เรียนเลือกกิจกรรมชุมนุม
4. จงบอกหลักการของปรัชญากลุ่มอนุรักษ์นิยมคือ สารัตถนิยม และนิรันตรนิยมเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ เหมือนกัน คือเชื่อว่าหลักการย่อมถูกเสมอ เชื่อในคุณงามความดีอันสูงสุดที่ไม่เปลี่ยนแปลง
5. จงบอกหลักการของปรัชญากลุ่มกลุ่มเสรีนิยม (liber view) คือ พิพัฒนาการนิยม (progressive) และปฏิรูปนิยม (reconstructionism) เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ แตกต่างกัน คือพิพัฒนาการนิยมมุ่งพัฒนาบุคลิกภาพของเด็ก ส่วนปฏิรูปนิยมการเรียนรู้จะมีค่าเมื่อได้ปฏิบัติจริง
6. จงอธิบายว่า ความดี ความงาม เป็นสิ่งที่วัดได้หรือไม่ จงอธิบาย
ตอบ เป็นสิ่งที่วัดได้โดยวัดจากการกระทำของคนที่แสดงออกมา
7. จงเขียนเรียงความเรื่อง โลกทัศน์ของข้าพเจ้าที่มีต่ออาชีพครู
ตอบ อาชีพครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นอาชีพที่ช่วยสร้างความแข็งแรง และมั่นคงให้กับประเทศชาติ ครูเป็นแม่แบบให้กับทุกๆอาชีพ ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า ข้าพเจ้าก็จะเป็นครูที่ดี เก่ง และให้คำปรึกษากับลูกศิษย์ได้อย่างดี จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ได้เรียนมาทั้งหมดเพื่อถ่ายทอดให้กับลูกศิษย์
8. ท่านคิดว่าปรัชญาตะวันตกที่เหมาะสมใช้เป็นแนวทางการจัดการศึกษาของไทยมากที่สุด จงอธิบาย
ตอบ ปรัชญาปฏิรูปนิยม เพราะว่าเป็นปรัชญาที่ส่งเสริมให้โรงเรียนมีบทบาทในการปฏิรูปสังคม เพื่อใช้ในการสร้างสังคมใหม่ให้มีความเสมอภาคและเป็นธรรม
9. ท่านคิดว่า พุทธปรัชญาจะมาพัฒนาการศึกษาของไทยได้หรือไม่ จงอธิบาย
ตอบ พัฒนาได้ เพราะพุทธปรัชญาจะสอนในเรื่องของการเตือนสติ รู้จักคิด รู้จักผิดชอบชั่วดี ช่วยขัดเกลาจิตใจ เป็นต้น
10. ท่านคิดว่าปรัชญาที่จัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ จงบอกชื่อและอธิบายการจัดการสอนที่ยึดเป็นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีวิธีการจัดอย่างไร อธิบายยกตัวอย่าง
ตอบ ปรัชญาปฏิรูปนิยม เชื่อว่าการเรียนรู้ที่มีค่าต่อเมื่อได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่วนการจัดการเรียนการสอนหลักการเชื่อว่า"หนทางปฏิรูปเพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่" ยึดถือการศึกษาเพื่อปฏิรูปสังคม เป็นสำคัญ
1. การจัดการศึกษาที่ไม่มีปรัชญาเป็นแนวทางท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ ไม่เห็นด้วย เพราะการศึกษากับปรัชญาต้องไปด้วยกัน จึงจะทำให้การศึกษามีประสิทธิภาพ
2. ปรัชญากับการศึกษาท่านคิดว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ มีความสัมพันธ์กัน คือปรัชญาคือ ความรู้ มีการใช้ปรัชญาเป็นแนวทางในการศึกษา จึงจะส่งผลให้การศึกษามีการพัฒนา
3. จงวิเคราะห์การจัดการศึกษาของโรงเรียนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับ หลักสูตร การจัดเรียนการสอน และการบริการทางการศึกษา ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ดำเนินการตามแนวคิดการศึกษาของปรัชญาจิตนิยม วัตถุนิยม ประสบการณ์นิยม อัตภาวนิยม
ตอบ -ปรัชญาจิตนิยม เรื่องการจัดกิจกรรมทางด้านดนตรีให้ผู้เรียน
-ปรัชญาวัตถุนิยม เรื่องจัดให้ผู้เรียนเรียนรู้และคุ้นเคยกับสรรพสิ่งธรรมชาติ
-ประสบการณ์นิยม เรื่องโรงเรียนเน้นสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้เรียน
-อัตภาวนิยม เรื่องให้ผู้เรียนเลือกกิจกรรมชุมนุม
4. จงบอกหลักการของปรัชญากลุ่มอนุรักษ์นิยมคือ สารัตถนิยม และนิรันตรนิยมเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ เหมือนกัน คือเชื่อว่าหลักการย่อมถูกเสมอ เชื่อในคุณงามความดีอันสูงสุดที่ไม่เปลี่ยนแปลง
5. จงบอกหลักการของปรัชญากลุ่มกลุ่มเสรีนิยม (liber view) คือ พิพัฒนาการนิยม (progressive) และปฏิรูปนิยม (reconstructionism) เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ แตกต่างกัน คือพิพัฒนาการนิยมมุ่งพัฒนาบุคลิกภาพของเด็ก ส่วนปฏิรูปนิยมการเรียนรู้จะมีค่าเมื่อได้ปฏิบัติจริง
6. จงอธิบายว่า ความดี ความงาม เป็นสิ่งที่วัดได้หรือไม่ จงอธิบาย
ตอบ เป็นสิ่งที่วัดได้โดยวัดจากการกระทำของคนที่แสดงออกมา
7. จงเขียนเรียงความเรื่อง โลกทัศน์ของข้าพเจ้าที่มีต่ออาชีพครู
ตอบ อาชีพครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นอาชีพที่ช่วยสร้างความแข็งแรง และมั่นคงให้กับประเทศชาติ ครูเป็นแม่แบบให้กับทุกๆอาชีพ ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า ข้าพเจ้าก็จะเป็นครูที่ดี เก่ง และให้คำปรึกษากับลูกศิษย์ได้อย่างดี จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ได้เรียนมาทั้งหมดเพื่อถ่ายทอดให้กับลูกศิษย์
8. ท่านคิดว่าปรัชญาตะวันตกที่เหมาะสมใช้เป็นแนวทางการจัดการศึกษาของไทยมากที่สุด จงอธิบาย
ตอบ ปรัชญาปฏิรูปนิยม เพราะว่าเป็นปรัชญาที่ส่งเสริมให้โรงเรียนมีบทบาทในการปฏิรูปสังคม เพื่อใช้ในการสร้างสังคมใหม่ให้มีความเสมอภาคและเป็นธรรม
9. ท่านคิดว่า พุทธปรัชญาจะมาพัฒนาการศึกษาของไทยได้หรือไม่ จงอธิบาย
ตอบ พัฒนาได้ เพราะพุทธปรัชญาจะสอนในเรื่องของการเตือนสติ รู้จักคิด รู้จักผิดชอบชั่วดี ช่วยขัดเกลาจิตใจ เป็นต้น
10. ท่านคิดว่าปรัชญาที่จัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ จงบอกชื่อและอธิบายการจัดการสอนที่ยึดเป็นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีวิธีการจัดอย่างไร อธิบายยกตัวอย่าง
ตอบ ปรัชญาปฏิรูปนิยม เชื่อว่าการเรียนรู้ที่มีค่าต่อเมื่อได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่วนการจัดการเรียนการสอนหลักการเชื่อว่า"หนทางปฏิรูปเพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่" ยึดถือการศึกษาเพื่อปฏิรูปสังคม เป็นสำคัญ
วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558
บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการศึกษา
แบบฝึกหัด
1.จงประมวลความหมายของคำว่า “การศึกษา” 5 นิยาม
ตอบ -นิยามที่ 1 การศึกษา (Education) หมายถึง การสอนหรือการฝึกอบรมโดยการชักนำ ดึงความรู้ออกมาในตัวของผู้เรียนจนทำให้เกิดความรู้ตลอดชีวิต
-นิยามที่ 2 การศึกษา (Education) หมายถึง สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเป็นสุขและทุกข์ได้ในโอกาสที่เหมาะสม
-นิยามที่ 3 การศึกษา (Education) หมายถึง การถ่ายทอมวัฒนธรรมของตนเองในทุกๆด้าน
-นิยามที่ 4 การศึกษา (Education) หมายถึง การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่ถ่ายทอดผ่านสื่อมวลชนและสภาพแวดล้อมของสังคม ทำให้มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้
-นิยามที่ 5 การศึกษา (Education) หมายถึง การเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม
2. คำว่า การศึกษา คือ กระบวนการเรียนรู้ ท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ เห็นด้วย เพราะการศึกษาทำให้เรามีความรู้และเกิดกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
3. ในฐานะที่ท่านเป็นนักศึกษาวิชาชีพครู จงให้นิยามการศึกษาตามความคิดเห็นของท่าน
ตอบ การศึกษาในความคิดเห็นของข้าพเจ้า คือการเรียนรู้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอน จนกระทั่งเข้านอนซึ่งสิ่งทั้งหลายที่เข้ามาให้เราเรียนรู้จะพัฒนาจิตใจเราให้สูงขึ้น และสามารถคิดได้อย่างมีเหตุผล
4. ความมุ่งหมายทั่วไปและความมุ่งหมายเฉพาะเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ แตกต่างกัน เพราะความมุ่งหมายทั่วไปจะกล่าวอย่างกว้างๆหรือโดยรวม ส่วนความมุ่งหมายเฉพาะจะกล่าวเฉพาะเรื่องไม่ครอบคลุม
5. ความมุ่งหมายคืออะไร ความมุ่งหมายการศึกษาระดับชาติ ความมุ่งหมายการศึกษา แต่ละระดับ ความมุ่งหมายระดับหลักสูตร และความมุ่งหมายระดับหมวด และความมุ่งหมายระดับการสอน มีความสัมพันธ์หรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ ความมุ่งหมาย คือการกำหนดแนวคิดไว้ล่วงหน้า ในการทำกิจกรรมต่างๆโดยมีการวางแผน เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์และวัตถุประสงค์
6. องค์ประกอบที่ใช้กำหนดความมุ่งหมายของการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ 1)ปรัชญาการศึกษา กำหนดตามความมุ่งหมายและกำหนดทิศทาง
2)จิตวิทยาการศึกษา คำนึงถึงผู้เรียน การศึกษานำไปสู่พัฒนาการของผู้เรียน
3)จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม เพื่อให้บุคคลสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิตของตนเอง
4)บริบทของชุมชน รวมทั้งฐานะทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน อาศัยทรัพยากรในท้องถิ่น คนในชุมชน จำเป็นต้องนำสิ่งที่กล่าวมากำหนดเป็นความมุ่งหมายของการศึกษา
5)ต่างประเทศที่มีความสัมพันธ์กัน การจัดการศึกษาทำให้มีผลต่อการพัฒนาประเทศไทย
6)เทคโนโลยี ทำให้การศึกษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว การติดต่อสื่อสารได้ทุกมุมของโลก
7. ทำไมการจัดการศึกษาไทยสมัยต่าง ๆ จึงต้องกำหนดความมุ่งหมายการศึกษา ที่จะบ่งบอกความเป็นมาของการศึกษาไทยได้หรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ การศึกษาของคนไทย มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในทุกด้าน สาเหตุที่ต้องกำหนดความมุ่งหมายเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นมาและสภาพของสังคมไทยตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
8. ในฐานะท่านเป็นนักศึกษาวิชาชีพครู ท่านคิดว่าการศึกษามีความสำคัญต่อประเทศอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ การศึกษาช่วยให้มนุษย์คิดเป็น คิดถูก และสามารถนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาประเทศไม่ให้ประเทศอื่นเอาเปรียบ และทำให้ทุกคนตระหนักถึงหน้าที่ของตนเอง
9. แนวคิดพุทธทาสภิกขุ ได้กล่าวว่า การศึกษาเพื่อมนุษย์จะมีโอกาสได้สิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่มนุษย์ควรจะได้โดยการทำลายซึ่งสัญชาตญาณอย่างสัตว์ แล้วมีการประพฤติกระทำอย่างมนุษย์ที่มีจิตใจสูงโดยสมบูรณ์ และสิ่งที่ดีที่สุดตามหลักศาสนาพุทธที่ว่า กินอยู่อย่างพอดี อย่ากินส่วนเกินอย่าใช้ส่วนเกินเพื่อจะให้เป็นไปได้อะไรอีกอันหนึ่งซึ่งสูงสุดเรียกว่า “บรมธรรม” และการศึกษา เพื่อธรรมาธิปไตยและเป็นเรื่องคนมีปัญญา ต้องมีปัญญาแท้จริงสูงสุด เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ เห็นด้วย เพราะการศึกษาทำให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม
10. แนวคิดของนักการศึกษาไทยที่ท่านชอบมากที่สุด 1 ท่าน แสดงทัศนะของท่านต่อแนวความคิดการจัดการศึกษาของไทย
ตอบ แนวคิดของ ส.ศิวรักษ์ การศึกษาทำให้กระบวนการเล่าเรียนไปสู่การก่ออุปนิสัย และทัศนะตลอดผลที่ได้จากการประกอบอาชีพ นั่นก็คือการศึกษา
1.จงประมวลความหมายของคำว่า “การศึกษา” 5 นิยาม
ตอบ -นิยามที่ 1 การศึกษา (Education) หมายถึง การสอนหรือการฝึกอบรมโดยการชักนำ ดึงความรู้ออกมาในตัวของผู้เรียนจนทำให้เกิดความรู้ตลอดชีวิต
-นิยามที่ 2 การศึกษา (Education) หมายถึง สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเป็นสุขและทุกข์ได้ในโอกาสที่เหมาะสม
-นิยามที่ 3 การศึกษา (Education) หมายถึง การถ่ายทอมวัฒนธรรมของตนเองในทุกๆด้าน
-นิยามที่ 4 การศึกษา (Education) หมายถึง การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่ถ่ายทอดผ่านสื่อมวลชนและสภาพแวดล้อมของสังคม ทำให้มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้
-นิยามที่ 5 การศึกษา (Education) หมายถึง การเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม
2. คำว่า การศึกษา คือ กระบวนการเรียนรู้ ท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ เห็นด้วย เพราะการศึกษาทำให้เรามีความรู้และเกิดกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
3. ในฐานะที่ท่านเป็นนักศึกษาวิชาชีพครู จงให้นิยามการศึกษาตามความคิดเห็นของท่าน
ตอบ การศึกษาในความคิดเห็นของข้าพเจ้า คือการเรียนรู้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอน จนกระทั่งเข้านอนซึ่งสิ่งทั้งหลายที่เข้ามาให้เราเรียนรู้จะพัฒนาจิตใจเราให้สูงขึ้น และสามารถคิดได้อย่างมีเหตุผล
4. ความมุ่งหมายทั่วไปและความมุ่งหมายเฉพาะเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ แตกต่างกัน เพราะความมุ่งหมายทั่วไปจะกล่าวอย่างกว้างๆหรือโดยรวม ส่วนความมุ่งหมายเฉพาะจะกล่าวเฉพาะเรื่องไม่ครอบคลุม
5. ความมุ่งหมายคืออะไร ความมุ่งหมายการศึกษาระดับชาติ ความมุ่งหมายการศึกษา แต่ละระดับ ความมุ่งหมายระดับหลักสูตร และความมุ่งหมายระดับหมวด และความมุ่งหมายระดับการสอน มีความสัมพันธ์หรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ ความมุ่งหมาย คือการกำหนดแนวคิดไว้ล่วงหน้า ในการทำกิจกรรมต่างๆโดยมีการวางแผน เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์และวัตถุประสงค์
6. องค์ประกอบที่ใช้กำหนดความมุ่งหมายของการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ 1)ปรัชญาการศึกษา กำหนดตามความมุ่งหมายและกำหนดทิศทาง
2)จิตวิทยาการศึกษา คำนึงถึงผู้เรียน การศึกษานำไปสู่พัฒนาการของผู้เรียน
3)จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม เพื่อให้บุคคลสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิตของตนเอง
4)บริบทของชุมชน รวมทั้งฐานะทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน อาศัยทรัพยากรในท้องถิ่น คนในชุมชน จำเป็นต้องนำสิ่งที่กล่าวมากำหนดเป็นความมุ่งหมายของการศึกษา
5)ต่างประเทศที่มีความสัมพันธ์กัน การจัดการศึกษาทำให้มีผลต่อการพัฒนาประเทศไทย
6)เทคโนโลยี ทำให้การศึกษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว การติดต่อสื่อสารได้ทุกมุมของโลก
7. ทำไมการจัดการศึกษาไทยสมัยต่าง ๆ จึงต้องกำหนดความมุ่งหมายการศึกษา ที่จะบ่งบอกความเป็นมาของการศึกษาไทยได้หรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ การศึกษาของคนไทย มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในทุกด้าน สาเหตุที่ต้องกำหนดความมุ่งหมายเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นมาและสภาพของสังคมไทยตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
8. ในฐานะท่านเป็นนักศึกษาวิชาชีพครู ท่านคิดว่าการศึกษามีความสำคัญต่อประเทศอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ การศึกษาช่วยให้มนุษย์คิดเป็น คิดถูก และสามารถนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาประเทศไม่ให้ประเทศอื่นเอาเปรียบ และทำให้ทุกคนตระหนักถึงหน้าที่ของตนเอง
9. แนวคิดพุทธทาสภิกขุ ได้กล่าวว่า การศึกษาเพื่อมนุษย์จะมีโอกาสได้สิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่มนุษย์ควรจะได้โดยการทำลายซึ่งสัญชาตญาณอย่างสัตว์ แล้วมีการประพฤติกระทำอย่างมนุษย์ที่มีจิตใจสูงโดยสมบูรณ์ และสิ่งที่ดีที่สุดตามหลักศาสนาพุทธที่ว่า กินอยู่อย่างพอดี อย่ากินส่วนเกินอย่าใช้ส่วนเกินเพื่อจะให้เป็นไปได้อะไรอีกอันหนึ่งซึ่งสูงสุดเรียกว่า “บรมธรรม” และการศึกษา เพื่อธรรมาธิปไตยและเป็นเรื่องคนมีปัญญา ต้องมีปัญญาแท้จริงสูงสุด เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ เห็นด้วย เพราะการศึกษาทำให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม
10. แนวคิดของนักการศึกษาไทยที่ท่านชอบมากที่สุด 1 ท่าน แสดงทัศนะของท่านต่อแนวความคิดการจัดการศึกษาของไทย
ตอบ แนวคิดของ ส.ศิวรักษ์ การศึกษาทำให้กระบวนการเล่าเรียนไปสู่การก่ออุปนิสัย และทัศนะตลอดผลที่ได้จากการประกอบอาชีพ นั่นก็คือการศึกษา
วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558
เล่าเรื่องตัวเองพอสังเขป
ให้นักศึกษาเล่าเรื่องตัวเองพอสังเขป ดังนี้
1. ปรัชญาชีวิต
ปรัชญาชีวิตขอข้าพเจ้า คือ อดีตปล่อยมันไป ปัจจุบันเริ่มต้นใหม่
2. การศึกษา
-จบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านห้วยกลาง
-จบมัธยมศึกษาต้นจากโรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช
-จบมัธยมศึกษาปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้
-กำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
คณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์
3. ทำไมจึงอยากเรียนครู
เหตุผลที่ข้าพเจ้าอยากเรียนครู เพราะที่บ้านมีทั้งพ่อและลุงที่เป็นคุณครู และได้เห็นแบบอย่างในการเป็นครูที่ดีมาตลอด จึงชอบและใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นคุณครูเหมือนกับพ่อและลุง
4. สิ่งที่อยากทำในอนาคต
เมื่อเรียนจบคณะครุศาสตร์ใน 5 ปีข้างหน้าก็จะเปิดสถาบันกวดวิชา และจะทำธุรกิจส่วนตัว
5.สิ่งที่ชอบ และไม่ชอบ
สิ่งที่ชอบ คือความมีน้ำใจ เป็นมิตรที่ดีต่อกัน
สิ่งที่ไม่ชอบ คือการหลอกลวง อิจฉา และแข่งกันอวดเก่ง
1. ปรัชญาชีวิต
ปรัชญาชีวิตขอข้าพเจ้า คือ อดีตปล่อยมันไป ปัจจุบันเริ่มต้นใหม่
2. การศึกษา
-จบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านห้วยกลาง
-จบมัธยมศึกษาต้นจากโรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช
-จบมัธยมศึกษาปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้
-กำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
คณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์
3. ทำไมจึงอยากเรียนครู
เหตุผลที่ข้าพเจ้าอยากเรียนครู เพราะที่บ้านมีทั้งพ่อและลุงที่เป็นคุณครู และได้เห็นแบบอย่างในการเป็นครูที่ดีมาตลอด จึงชอบและใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นคุณครูเหมือนกับพ่อและลุง
4. สิ่งที่อยากทำในอนาคต
เมื่อเรียนจบคณะครุศาสตร์ใน 5 ปีข้างหน้าก็จะเปิดสถาบันกวดวิชา และจะทำธุรกิจส่วนตัว
5.สิ่งที่ชอบ และไม่ชอบ
สิ่งที่ชอบ คือความมีน้ำใจ เป็นมิตรที่ดีต่อกัน
สิ่งที่ไม่ชอบ คือการหลอกลวง อิจฉา และแข่งกันอวดเก่ง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)